
หากคุณสังเกตเห็นจุดสีดำเล็กๆ หรือผิวที่หยาบกร้านบนคางของแมว อาจเป็นสัญญาณของ “สิวแมว” ซึ่งแม้จะไม่อันตรายในระยะแรก แต่หากปล่อยไว้ อาจทำให้เกิดการติดเชื้อหรือความไม่สบายตัว เรามาดูกันว่าสิวแมวเกิดจากอะไร และจะรักษาและป้องกันได้อย่างไร
สาเหตุที่พบบ่อยของสิวที่คางแมว
ฮอร์โมนหลั่งมากเกินไป
แมวที่เข้าสู่วัยเจริญพันธุ์อาจมีต่อมไขมันทำงานมากขึ้น ส่งผลให้รูขุมขนอุดตันและเกิดสิว
ใช้ชามพลาสติก
ชามพลาสติกสามารถกักเก็บน้ำมันและแบคทีเรีย แม้จะล้างแล้วก็ตาม ส่งผลให้แมวระคายเคืองหรือเกิดสิว
สุขอนามัยบริเวณคางไม่ดี
เศษอาหารที่ค้างอยู่บริเวณคางหลังอาหารเป็นแหล่งเพาะแบคทีเรีย และอาจพัฒนาเป็นสิวได้หากไม่ทำความสะอาด
สภาพแวดล้อมไม่สะอาด
หากแมวอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่สะอาด มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อราหรือแบคทีเรีย ซึ่งทำให้สิวลุกลามได้
ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
ลูกแมวหรือแมวที่ขาดสารอาหารอาจมีภูมิคุ้มกันต่ำ และมีโอกาสเป็นสิวได้มากขึ้น
อาหารที่มีไขมันสูง
อาหารที่มันหรือไขมันสูงอาจอุดตันรูขุมขน และทำให้เกิดสิว โดยเฉพาะแมวที่มีผิวแพ้ง่าย
วิธีรักษาสิวที่คางของแมว
✅ ชาเขียว
ใช้สำลีชุบชาเขียวที่เย็นแล้ว เช็ดบริเวณคางวันละ 1–2 ครั้ง ชาเขียวมีคุณสมบัติต้านแบคทีเรียและลดการอักเสบตามธรรมชาติ
✅ น้ำเกลือ + วาสลีน
เช็ดบริเวณคางด้วยน้ำเกลือปลอดเชื้อ แล้วทาวาสลีนบางๆ ช่วยให้นิ่มและดันสิ่งอุดตันออกได้ง่าย
✅ ครีมยารักษาเฉพาะที่
หากสิวมีอาการบวมแดง ขนร่วง หรือรุนแรง ควรตัดขนบริเวณนั้นออก และทายาตามที่สัตวแพทย์แนะนำ เช่น ครีมเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ หรือมิวพิโรซิน
👉 ระหว่างรักษา ควรเปลี่ยนชามอาหาร และรักษาความสะอาดรอบตัวแมวเพื่อป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นอีก
วิธีป้องกันสิวแมว
🧼 ล้างชามอาหารทุกวัน
เปลี่ยนมาใช้ชามเซรามิกหรือสเตนเลส และล้างด้วยน้ำร้อนและสบู่อ่อนๆ ทุกวัน
🐾 ลดความเครียดของแมว
เล่นกับแมวเป็นประจำ ให้ขนมหรือของเล่นช่วยเสริมสุขภาพจิตและลดปัญหาผิว
🍽️ ให้อาหารไขมันต่ำ
เลือกอาหารที่ไขมันและเกลือต่ำ ช่วยให้ผิวของแมวแข็งแรงและลดสิวได้
สิวที่คางแมวเป็นปัญหาที่พบบ่อย แต่สามารถจัดการได้ง่าย หากคุณเข้าใจสาเหตุและใส่ใจดูแลอย่างถูกวิธี สุขภาพผิวของแมวก็จะดีขึ้นอย่างยั่งยืน